วิธีการรับประทานยาฮั้วลักเซียม

 

           1.ปกติดื่มได้ตั้งแต่แรกเกิด จนถึงวัยชรา ทุกขวดจะมีแก้วเล็กแถมให้ 1 ใบ คำว่า มล. หรือ cc หมายถึงระดับขีดของแก้วเท่ากับ มิลลิลิตร โดยประมาณ ทุกครั้งที่ดื่มสมุนไพร ควรดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำอุ่นตามเท่ากับปริมาณสมุนไพรที่ดื่ม และอย่าด่วนสรุปว่าดื่มแล้วไม่ได้ผล จนกว่าจะดื่มครบ 4 ขวดแล้ว

 

           2.วัยเด็ก ให้ลดปริมาณการดื่มลง ตั้งแต่ 1 หยดจนถึง 20 มล ของแก้ว ถ้าอายุ 12 ปีขึ้นไปดื่มเท่ากับผู้ใหญ่ สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 75 ปีขึ้นไป ไม่ควรเกินครั้งละ 50มล. ของแก้ว

 

           3.ดื่มวันละ 2 - 6 ครั้งแล้วแต่อาการหนัก – เบา  เริ่มที่ 20 มล. ของแก้ว โดยดื่มก่อนอาหารเช้า – กลางวัน – เย็น – ก่อนนอน ครบทุก 7 วัน   ให้เพิ่มเป็น 30 – 40 – 50 – 60 มล. ของแก้ว และคงไว้ไม่เกิน 60 มล. ของแก้ว

 

           4.ระยะแรกๆ ถ้ามีอาการท้องผูก ให้ดื่มน้ำส้มมะขามเปียกผสมน้ำร้อนใส่เกลือเล็กน้อย ดื่มหลังอาหารมื้อเย็น วันละ 1 – 3 แก้ว และถ้ามีอาการท้องถ่าย หรือ นอนไม่หลับก็ไม่ต้องตกใจจะหายเอง

 

           5.ระยะแรกๆ ถ้ามีอาการร้อนใน เจ็บคอ หรือ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไม่ต้องตกใจจะหายเอง อาการมึนเวียน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน รวมทั้งผื่นคัน ตุ่มหัวสิว  ฯลฯ (ถ้ามีแสดงว่าร่างกายเรามีของเสียที่ต้องการขับออก) ไม่ต้องตกใจเพราะเป็นการขับของเสียออกจากร่างกาย จะค่อยๆ หายไปเอง

 

           6.อาการผิดปกติต่างๆ อาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่การดื่มระยะแรกๆ หรืออาจจะขวดที่ 2 – 3 – 4 ก็ได้แล้วแต่สุขภาพและโครงสร้างของร่างกาย และบางท่านอาจจะไม่มีอาการใดๆ เลยก็ได้

 

           7.ระหว่างการดื่มสมุนไพร ท่านจะรับประทานยาของโรงพยาบาลควบคู่ก็ได้ ไม่ขัดแย้งกัน ยกเว้นสมุนไพรอื่นๆ ควรงดเว้น เพราะอาจจะเกิดการต่อต้านกัน

 

           8.ผู้ที่มีรอบเดือน หรืออาการไออ่อนแอ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น น้ำแข็ง น้ำอัดลม และน้ำมะพร้าวอ่อน

 

           9.ถ้ามีการไอ ให้ใช้เกลือป่นผสมในสมุนไพรเล็กน้อย ดื่มไประยะหนึ่งจนกว่าจะทุเลา

 

         10.อาการต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว เป็นอาการเพียงเล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องวิตกกังวล เพียงแต่แจ้งเตือนไว้ล่วงหน้า และไม่ได้เกิดกับทุกคนที่ดื่ม มีแต่ให้คุณแก่ผู้ดื่มสถานเดียว เพราะปราศจากสารพิษเจือปน ถ้าท่านอดทนดื่มจนผ่านอาการขั้นต้นแล้ว ท่านก็จะมีสุขภาพดีขึ้น

 

         11. ระหว่างดื่มสมุนไพร ควรงดเว้นอาหาร เช่น หน่อไม้ หัวไชเท้า ฟักแฟงแตงกวา แตงโม และเบียร์ กรณีเบาหวาน ควรงดของหวาน ผลไม้รสหวานบางชนิด น้ำอัดลม และระยะแรกน้ำตาลในร่างกายจะเพิ่มขึ้นไม่ต้องตกใจ สำหรับเก๊า ควรงดสัตว์ปีกเครื่องในสัตว์  และอาหารทะเลบางชนิด

 

ความรู้เคล็ดในการทานยาน้ำสมุนไพร

   

         ท่านที่เป็นโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อยู่และรักษาด้วยการทานยาแพทย์แผนปัจจุบันมานานแต่ยังไม่หายเป็นปกติ หรือบ้างโรคก็ดีขึ้น บางโรคทานยาอย่างไร ก็ยังเหมือนเดิม บางโรคแย่ลงหรือทรุดนักลงไปเรื่อยๆ และเมื่อท่านรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันมากๆ เป็นเวลานาน ยาแผนปัจจุบันบางชนิด เมื่อทานมากๆ จะไปทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย และอวัยวะภายใน เช่น ตับไป กระเพาะอาหารจะทำงานหนักจนเกินไป และเสื่อมสภาพลง ยาแผนปัจจุบันบางชนิดจะทำให้กระดูกเสื่อมหรือผุด้วย

         ฉะนั้น ผม หมอณรงค์ พุ่มโพธิ์งาม จึงขอแนะนำให้ท่านที่มีปัญหาสุขภาพต่างๆ ทุกท่าน หันมาทำการรักษาด้วยสมุนไพรจีน หรือสมุนไพรเสริมอาหารควบคู่กันไปอีกทางหนึ่ง อาการโรคต่างๆที่เป็นอยู่ของทุกท่านจะสามารถดีขึ้น เพราะว่าสมุนไพรจีนจะไปทำการบำรุงรักษาที่ตันเหตุของการเกิดโรคภัยต่างๆ และเมื่อต้นเหตุดี ปลายเหตุก็จะดีขึ้นตามลำดับ อีกทั้งสมุนไพรจีนไม่มีพิษภัยและไม่ส่งผลข้างเคียงที่ไม่ดีต่อร่างกายและอวัยวะภายใน

          เมื่อท่านตัดสินใจที่หันมารักษาโรคภัยที่เป็นอยู่ด้วยสมุนไพรแล้ว ที่สำคัญท่านอย่าเลิกการรักษาด้วยการทานยาแผนปัจจุบัน ให้ท่านรักษาโดยทานควบคู่กันไป ระหว่างยาแผนปัจจุบันกับยาสมุนไพรจีน ซึ่งจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แล้วเมื่อเวลาที่หมอปัจจุบันนัด ท่านก็ไปตามนัด พอแพทย์ท่านตรวจร่างกายแล้วพบว่าอาการของท่านดีขึ้น ก็จะเลิกทานยาแผนปัจจุบันเอง อย่างเช่น ก่อนที่มารับประทานยาสมุนไพรจีน คนไข้มีอาการปวดหลัง แต่ปัจจุบัน หลังจากทานยาสมุนไพรจีนแล้วไม่ปวดหลัง จะทานยาแก้ปวดทำไม หรืออาการต่างๆ ดีขึ้น สุขภาพแข็งแรงแล้ว เราจะทานยาแผนปัจจุบันทำไม

           แต่มีอยู่ 2 ชนิด ที่ไม่ควรเลิกทานยาแผนปัจจุบัน แม้ท่านหันมาทานยาสมุนไพรจีนแล้วก็ตาม นอกนั้นสามารถเลิกยาแผนปัจจุบันได้ ถ้าอาการดีขึ้นมาแล้ว หรือแพทย์สั่งงดทาน

           ชนิดที่ 1 คือ ความดันโลหิตสูง ท่านที่เป็นโรคนี้แล้ว ไม่ควรเลิกทานยาแผนปัจจุบัน จนกว่าความดันจะปกติ งดอาหารรสเค็ม และออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ อาการความดันจะดีขึ้นโดยทานยาสมุนไพรจีนควบคู่ไปด้วย เหนื่อยเหงื่อ ออก อย่างพึ่งอาบน้ำ เน้นเลือดสมองจะแตก

           ชนิดที่ 2 คือโรคเบาหวาน ที่ที่เป็นโรคนี้ไม่หายขาด ถ้าหากเกิดจากตับอ่อนพิการ หรือไม่ทำงาน เพราะตับอ่อนจะไม่สามารถผลิตอินซูลิน มาควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด

 

 

ถ้าท่านหันมาดื่มสมุนไพรจีนแล้วไม่สร้างความผิดหวังกับท่าน ได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญ สมุนไพรจีนไม่มีสารตกค้าง

  *** โรคต่างๆ ค่อยๆ เกิด สะสมทีละนิด เมื่อเรารู้ ก็เป็นเยอะแล้ว บางโรค เมื่อรู้ก็เสียชีวิตแล้ว ดังนั้น เราจึงต้องหาวิธีป้องกันไว้ก่อน เช่น ออกกำลังกาย ดื่มยาสมุนไพรจีน กินอาหารให้ครบ 5 หมู่

 

 

ด้วยความปรารถนาดี จาก

ฮั้วลักเซียม สมุนไพรจีน ราคาพิเศษ โสม ตังถั่งเฉา ตังกุยเฉา รักษาโรค อายุวัฒนะ บำรุงร่างกาย ความเสื่อม

คุณหมอณรงค์ พุ่มโพธิ์งาม

 

Visitors: 114,506