ต้นเหตุของการเกิดโรค
ในสภาวะความเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและมีบทบาทต่อ
การดำรงชีพของคนปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ผู้ที่อาศัยในตัวเมืองใหญ่ ๆ อย่างเช่น กรุงเทพฯ ....
การนำเอาธรรมชาติมาแปรรูปเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ เริ่มขึ้นอย่างฟุ่มเฟือย และกลายเป็นความเคยชิน และในที่สุดเราก็คิดว่าเป็นปัจจัยที่จำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน (ที่เราขาดไม่ได้)
ความไม่รู้หรือการหลงผิดในความคิดนี้ ทำให้เรากลับไปพึ่งพาสารเคมีทีแฝงมาอยู่ในรูป "คุณหมอวิเศษ" ที่ดลบันดาลให้ในทุกรูปแบบ
ถ้าหากมาทำความเข้าใจในหลักใหญ่ของธรรมชาติและเรียนรู้ว่า "มนุษย์เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ" เพราะฉะนั้นสิ่งใดที่มนุษย์ปฏิบัติตนผิดหลักของ ธรรมชาติแล้ว ย่อมส่งผลกระทบต่อตัวเราเอง
ดังนั้นถ้าเราเข้าใจพื้นฐานของร่างกายเรา เราก็จะทราบว่าสาเหตุที่นำไปสู่การเกิดโรคภัยไข้เจ็บ
และอาการที่เกิดขึ้นต่าง ๆ ในร่างกาย โดยสรุปมีดังนี้:-
1. อาหาร เนื่องจากพบว่าคนไทยในสังคมปัจจุบันมีความเจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคทางเดินอาหารกันเป็นส่วนมาก
เชื่อมโยงไปสู่อวัยวะต่าง ๆ อย่างมากมายอันมีสาเหตุมาจากการ บริโภคอาหาร ที่ไม่ถูกต้อง จากค่านำยมที่ผิด ๆ และสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมาย การทดลองซึ่งเป็นงานวิจัยของ ต่างชาติแต่นำมาใช้กับคนไทย ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ไม่ว่าจะเป็นถิ่นกำเนิน, สายพันธุ์, ภูมิประเทศ, ภูมิอากาศ, การบริโภคและอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าให้ข้อมูลด้านโภชนาการที่มีอยู่
ถูกนำมาใช้อย่างไม่ถูกต้อง
ร่ายกายได้รับสารอาหารที่ฟื้นฟูตัวเองในทุกระบบแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ดูดซึมทันที ทำให้ร่างกาย นำมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว ขับถ่ายง่ายไม่เหลือของเสียตกค้าง ใช้ได้กับผู้ป่วยทุกประเภทและคนปกติอย่างมีข้อจำกัดน้อยที่สุด
ปลอดภัยและมีราคาต่ำ ที่สำคัญทุกคนปฏิบัติเองได้ เช่น น้ำผักผลไม้ปั่น
2. อารมณ์ อารมณ์ตึงเครียดจะส่งผลทำให้ร่างกายผลิต ฮอร์โมนอะดรีนาลีน ( ฮอร์โมนแห่งความทุกข์) หลั่งมาจากต่อมหมวกไต ทำให้ภาวะความเป็นกรดในเลือดสูงขึ้น เลือดข้นขึ้น ความดันโลหิตสูง
ขบวนการเคมีเกิดขึ้นมากมายแต่ไม่สมดุลเกิดเซลตายจำนวนมากมาย และในขณะที่เครียด
ถุงน้ำดีจะปิดการย่อยไขมันที่จะเปลี่ยนรูป เป็นพลังงาน แก่ร่างกายและเป็น ส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย
ถ้าขบวนการเผาพลาญอาหารมาเป็นพลังงานในการสร้างเซลใหม่และกำจัดของเสียเกิดไม่ทัน
จะเกิดการสะสมเซลตายซึ่งเป็นสาเหตุของอาการและโรคจำนวนมาก
ดังต่อไปนี้เช่น อาการสารพัดปวด, เนื้องอก, มะเร็ง, ภูมิแพ้, ท้องอืด, ท้องเฟ้อ, ท้องผูก, โรคกระเพาะ,โรคลำไส้, โรคไต, ผมหงอกก่อนวัย, กระดูกผุ, ปวดประจำเดือน, ความดันโลหิตสูง, อัมพฤกษ์, อัมพาต, ต้อเนื้อ, ต้อกระจก, ต้อลม, ตาพร่า ฯลฯ
3. อากาศ เราจะพบว่าคนไทยส่วนมากโดยเฉพาะในสังคมเมือง หลวงหายใจสั้นและเร็ว ทำให้การหายใจแต่ละครั้งได้ปริมาณ O2 น้อย และเอา CO2 ออกได้น้อยเช่นกัน ปอดทั้งสองข้างจะทำงานไม่ได้เต็มที่ เมื่อปล่อยให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลให้เกิดความเสื่อม ไปถึงความผิดปกติยังระบบอื่น ๆ
4. อุจจาระ การขับถ่ายของคนเราโดยเฉพาะอุจจาระนั้น ควรทำให้เป็นปกติทุกวันก่อน
7 โมงเช้า ควรขับของเสียออกให้หมด และเตรียมรับอาหารมื้อเช้า คนที่ไม่พยายามขับถ่าย
ให้เป็นปกติ ปล่อยให้ท้องผูกเป็นประจำจะเป็นการปล่อยให้ร่างกายดูดซึมของเสียไปเลี้ยงร่างกาย
เนื่องจากปกติอาหารที่เรากินกันอยู่ส่วนมาก ภายใน 12 ชั่วโมง ก็เริ่มบูดเน่า คนที่ท้องผูก
เป็นระยะเวลานาน ๆ จะเป็นสาเหตุอันนำไปสู่อาการและโรคจำนวนมากมายหลายโรค
เช่น สมองเสื่อม หลงลืม ปวดทั้งหลาย ภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ เนื้องอก มะเร็ง อัมพฤกษ์
อัมพาต หอบหืด นอนไม่หลับ ฯลฯ
5. การออกกำลังกาย ควรเลือกวิธีการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับตนเอง เวลาที่เหมาะสม
กับการออกกำลังกายควรเป็นช่วง 05.00-07.00 น. ในตอนเช้า เพราะจะเป็นการช่วยให้ลำไส้ใหญ่ และไตขับของเสียออกให้หมด และพร้อมที่จะขับถ่าย และรับอาหารใหม่ในตอนเช้า
6. การนอน เวลาที่ควรให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนก็คือ ช่วงเวลา 3 ทุ่มถึงตี 3
(จะตื่นหลังตี 3 ก็ได้) แต่ไม่ควรเข้านอนเกิน 3 ทุ่ม การนอนดึกหรือการพักผ่อน
ไม่เพียงพอจะทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานหนักและทำให้เสื่อมเร็ว การนอนดึก
จะส่งผลไปยังความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ในทุกระบบ เนื่องจากทุกอวัยวะต้องได้รับ
สารอาหารจากการไหลเวียนตลอดเวลา มีของเสียตกค้างระดับเซล ทำให้มีอาการทางผิวหนัง
แพ้ง่าย เป็นฝ้า กระ แผลพุพองจากการติดเชื้อ โรคผิวหนังต่าง ๆ และเกิดอาการปวดบริเวณ
หลังส่วนบนของร่ายกาย ได้แก่ ไหล่ ศีรษะ ไมแกรน ความจำเสื่อม สมองฝ่อ ขี้ลืม ฯลฯ
ดังนั้นจึงไม่เป็นการยากที่เราจะปฏิบัติตนและทำความเข้าใจว่า..โรคแต่ละชนิดนั้นมี
ที่มาไม่ต่างกัน ที่ต่างกันคือชื่อเท่านั้น
โดย ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์
เรียบเรียงโดย ปุญโญ มีบรรจง